ทำอย่างไรถึงจะได้เป็นเศรษฐี มาดูวิธีการที่ทำให้เราเป็นเศรษฐีกัน
การที่จะเป็นเศรษฐีนั่นใช่ว่าจะทำได้ชั่วข้ามคืน เราต้องมีการลงทุน ทำให้เกิดคำถามต่อมาว่า แล้วจะเอาเงินที่ไหนลงทุนล่ะ? ซึ่งคำถามนี้เป็นคำถามที่หลายๆคนอยากรู้ แต่อย่าให้คำถามนี้เป็นอุปสรรคต่อการเป็นเศรษฐีเลย ถึงแม้การเป็นเศรษฐีไม่ได้ง่าย แต่ก็ไม่ยากสำหรับเราเลย หลายๆคนฝันว่าอยากทำงานน้อยๆ หรือไม่ทำอะไรเลย นั่งเล่นอยู่สบายๆ รวยไปวันๆ บนสถานที่สุดหรู เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตแบบนั้น แบบเศรษฐีคนรวยๆทำกัน เราจะต้องสร้างโอกาส, ลงทุนอย่างชาญฉลาดและต้องรักษาความร่ำรวยมั่งคั่งไว้ให้ยาวนาน และบทความนี้จะเสนอทฤษฎีที่จะนำพาให้คุณกลายเป็นเศรษฐีร่ำรวยมั่งคั่ง

ประกอบไปด้วยส่วนๆหลักๆ 3 ส่วน คือ

1.สร้างโอกาสอย่างไร?

2.ลงทุนอย่างชาญฉลาดอย่างไร?

3.จะรักษาความมั่งคั่งให้คงอยู่ตลอดได้อย่างไร?

ส่วนแรก:การสร้างโอกาส

1.ศึกษาให้ถ่องแท้ 

โดยทั่วไปการเป็นเศรษฐีนั้นไม่ได้จะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่การจะเป็นเศรษฐีจะต้องเป็นคนที่มีการศึกษาเรื่องดอกเบี้ย การจ่ายภาษี และการจ่ายค่าจ้าง 

ให้คุณหาคลาสเรียนเกี่ยวกับการเงินหรือไปเรียนในมหาวิทยาลัย และอ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน

การเรียนรู้เกี่ยวกับการเงินและการเป็นผู้ประกอบการ เรียนรู้ว่าอะไรที่ผู้บริโภคต้องการ แล้วสร้างธุรกิจโมเดลเพื่อเติมเต็มสิ่งที่คนเหล่านั้นต้องการ 

หาอ่านเกี่ยวกับความสำเร็จของเศรษฐีชื่อดัง เช่น วอรเร้น บัฟเฟตท์ บิวเกต หรือ จอน ฮันสแมน จงมีไหวพริบทางการเงินเพื่อสร้างให้มันเติบโต

2.ออมเงิน

การออมเป็นการเก็บเงินเพื่อสร้างเงิน ให้นำเงินจากเงินเดือนแล้วเก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ เพื่อรับเงินปันผลและเพื่อใช้ลงทุนในอนาคต

ตั้งเป้าหมายที่จะเก็บเงินจากเงินเดือนเป็นเปอร์เซน อาจจะเก็บสัก 500 บาทจากเงินเดือน ซึ่งเมื่อผ่านไปสามหรือห้าปีเราจะเห็นว่ามันเพิ่มขึ้นมาก แล้วนำเงินที่เราเหลือว่างแน่นอนไปลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงสูง

3.เริ่มออมบัญชีเกรียณอายุ(IRA)

บัญชีเพื่อการเกษียณอายุส่วนบุคคล จะมีอยู่ในสถาบันการเงินหลายๆที่ บัญชีเพื่อการเกษียณอายุส่วนบุคคลจะเป็นแผนการเก็บเงินเพื่ออนาคต เพื่อที่จะออมเงินพันล้านบาท จะต้องออมตั้งแต่ตอนนี้หากเป็นไปได้ ซึ่งดอกเบี้ยการออมจะค่อนข้างเยอะ 

แล้วแต่สถาบัณการเงิน ว่าขั้นต่ำที่เราจะต้องเก็บเท่าไหร่ ลองหาดูและคุยกับผู้แนะนำเกี่ยวกับการเงินตามธนาคาร

4.จ่ายหนี้บัตรเครดิท

มันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้หนี้หมดไป  โดยหนี้ที่ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือหนี้บัตรเครดิทที่จะต้องจ่าย หากเรามีหนี้บัตรเครดิท 

เราควรจ่ายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะหนึ้บัตรเครดิทมีค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยค่อนข้างเยอะ หากเรารีบจ่ายเราก็จะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นมากเลยทีเดียว

5.สร้างแผนอนาคต 5 ปี

ให้คาดการณ์เงินเท่าไหร่ที่เราจะต้องมีให้ได้ในห้าปีนี้ ตัดสินใจว่าจะใช้เงินอย่างไร จะลงทุน, เริ่มธุรกิจ หรือออมเอาดอกเบี้ย

จงลำดับความสำคัญเกี่ยวกับการใช้เงิน เขียนเป้าหมายเงินที่เราจะมี เวลาจะใช้เงินให้คิดถึงเป้าหมายนี้ตลอด เพื่อที่จะทำให้โครงการเงินเราในห้าปีนี้สำเร็จ

เขียนจำนวนเงินที่เก็บได้และจะต้องเก็บเหลืออีกเท่าไหร่ในแต่ละวัน อาจจะโน๊ตไว้บนหน้ากระจกในห้องน้ำ หรือบนที่บังเดินในรถยนต์ก็ได้ เพื่อเป็นแรงกระตุ้น

ส่วนที่สอง การลงทุน

1.ซื้ออสังหาริมทรัพย์

การซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนแบบที่พบได้โดยทั่วไป สินทรัพย์เหล่านี้อาจจะมีค่าเพิ่มขึ้นมากในเวลาเพียงหนึ่งปี ซึ่งดีมากหากลงทุนกับมัน การลงทุนอสังหาริมทรัพย์สามารถทำได้โดยการ ซื้อมาขายไป ให้เช้า หรือพัฒนาต่อให้ดีขึ้นแล้วขาย

จงระวังการลงทุนตอนตลาดไม่นิ่ง และต้องดูให้ดีว่าแต่ละเดือนจะต้องจ่ายค่าสินเชื่อเท่าไหร่หากต้องกู้ยืมเพื่อลงทุน ลองหาอ่านเกี่ยวกับวิกฤติ  2008 sub prime mortgageในสหัฐอเมริกาเพื่อเรียนรู้ข้อควรระวังจากตรงนั้น

2.ลงทุนในธุรกิจ

เริ่มสร้างธุรกิจของตัวเองหรือซื้อธุรกิจที่จะทำเงินให้เรา

สร้างหรือเลือกบริษัทที่ให้ผลิตภัฑณ์หรือบริการที่คุณอยากซื้อให้ตัวเอง และลงแรงกายและแรงเงินเพื่อให้มันเติบโต ให้ศึกษาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่ดีและไม่ดีในการลงทุน

ลงทุนในพลังงานสีเขียนและคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีอาจเป็นแผนการที่ดีสำหรับอนาคต เพราะธุรกิจเหล่าจะมีแนวโน้มว่าจะเติบโตในอีกสิบปีข้างหน้า เริ่มลงทุนตอนนี้มันอาจจะเป็นโอกาศที่ดีเลยทีเดียว

รีแอคชั่นเป็นไงกันบ้าง?

เม้นกันเลย

https://www.zuzzuz.com/assets/images/user-avatar-s.jpg

0 comment

มาเม้นเป็นคนแรกกัน!